มีการรายงานความคืยหน้าเมื่อวันที่ 24 กรกฏคม 2565 ของชาวไนจีเรียวัย 27 ปีซึ่งเป็นผู้ป่วย และ ติดเชื้อฝีดาษลิง ที่แอบเดินทางหลบหนีการเข้ารักษาตัวจาก จ.ภูเก็ต และลักลอบข้ามชายแดน จ.สระแก้ว ไปยังประเทศกัมพูชา ด้วยช่องทางธรรมชาติ ซึ่งหลังเจ้าหน้าที่กัมพูชาออกติดตามตัว ก็สามารถพบตัวที่กรุงพนมเปญ
แต่ทั้งนี้ พล.ต.อ.วรรณวีระ สม ผู้ช่วย ผบ.ตร.กัมพูชา ได้ให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนไทยใน จ.สระแก้ว ว่า หลังเจ้าหน้าที่กัมพูชาตรวจค้นและยืนยันแล้วว่าเป็นชาวไนจีเรียนคนเดียวกับที่หลบหนีจากประเทศไทย ทางการกัมพูชาก็ได้ส่งตัวผู้ป่วยรายนี้ไปยังโรงพยาบาล Cambodia Russia Friendship Hospital และหลังจากรักษาตัวเสร็จจะไม่การส่งผู้ป่วยรายนี้กลับไทย เนื่องจากสามารถจับตัวได้ในกัมพูชา จึงเป็นไปตามกฏระเบียบกฏหมายของประเทศกัมพูชานั่นเอง
ส่วนทางด้าน นพ.ประภาส ผูกดวง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า กรณีของชายชาวไนจีเรียวัย 27 ปี ที่ติดเชื้อโรคฝีดาษวานร ซึ่งมีการหลบหนีไปกัมพูชาและถูกทางการกัมพูชาตามจนพบตัวที่กรุงพนมเปญนั้น ประเทศไทยเป็นประเทศต้นทางที่พบเชื้อตามก็จริง แต่หากจะนำกลับมาประเทศไทยก็เป็นกระบวนการของกระทรวงการต่างประเทศ และกรมควบคุมโรคระหว่างประเทศ โดยมีตรวจคนเข้าเมืองร่วมประสาน แต่สำหรับเคสนี้น่าจะไม่มีการส่งตัวกลับมาประเทศไทย เนื่องจากเหตุเกิดที่ประเทศไหนก็ต้องดำเนินการรักษาและควบคุมโรค ให้เป็นไปตามหลักสากล ส่วนพื้นที่ จ.สระแก้ว ซึ่งชาวไนจีเรียเดินทางมานั้น จากการสืบสวนโรคของเจ้าหน้าที่ ยังไม่พบว่า มีกลุ่มเสี่ยงหรือคนที่เสี่ยงติดเชื้อ เพราะเขาไม่ได้ลงมาอยู่ในพื้นที่ แค่ผ่านและข้ามไป