ลูกค้านิสัยแย่ๆกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆและยังมีนิสัยที่มาหงุดหงิดหรือก้าวร้าวใส่กับผู้ให้บริการอย่างพนักงานในร้านอาหาร
Caitlin เป็นคนที่ทำงานในองกรค์ทีวีใหญ่และอาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกาว่า เธอเคยต่อว่าพนักงานที่ไม่ให้เธอคุยกันผู้จัดการของร้านอาหาร และเธอได้พูดคำหยาบคาย หงุดหงิด โมโหใส่พนักงานผู้ชายทางโทรศัพท์ เธอใช้เวลาถึง 3 ชั่วโมงในการต่อว่าพนักงานชายคนนั้น เธอไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าเธอจะทำยังนั้น และเป็นคนแบบนั้น เธอได้ใส่อารมณ์ที่ไม่ดีทุกๆอย่างใส่กับพนักงานชายคนนั้น เธอไม่ยอมให้เขาวางโทรศัพท์ เพราะเธอต้องการต่อว่าเขามากๆ ตำหนิในทุกๆเรื่องที่เธอไม่พอใจ ซึ่งเธอได้มารู้สึกผิดมากๆและได้มาคิดไตร่ตรองว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่ดีมากๆ เธอไม่ควรที่จะไปใส่อารมณ์หรือระบายอารมณ์ขนาดนั้นกับพนักงานชายคนนั้น ซึ่งมันเป็นเรื่องที่แย่มาก เธอกล่าว
เราทุกคนต่างควรยอมรับว่าเราได้เคยพูดไม่ดีหรือใส่อารมณ์กับผู้ให้บริการต่างๆ เช่น แอร์โฮสเตส Barista เด็กเสิร์ฟหรือ คนคิดเงิน โดยส่วนมากลูกค้าจะโมโหและหงุดหงิดใส่คนเหล่านี้โดยเรื่องเล็กๆน้อยๆ เช่นเป็นเรื่องที่พนักงานไม่สามารถทำอะไรได้หรือพวกเขาไม่ได้มีส่วนตัดสินใจในธุรกิจนี้ ลูกค้าคงลืมไปว่าพวกเขาเป็นแค่พนักงานส่วนหนึ่งของร้าน พวกเขาไม่ใช่เจ้าของซึ่งพวกเขาไม่ได้มีสิทธิ์ทำอะไรไปได้มากกว่านั้น โดยผลการรายงายวิจัยได้เปิดเผยว่าจำนวนลูกค้าที่โมโหใส่ผู้ให้บริการต่างๆนั้นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
นักวิจัยเปิดเผยว่าการที่ลูกค้ามีอารมณ์ฉุนเฉียวหรือมีอาการก้าวร้าวเพิ่มขึ้นมากกว่าผิดปกติเพราะเป็นความเครียดสะสมมาจาก เหตุการณ์Covid-19 นั้นทำให้ทุกๆอย่างเปลี่ยนแปลงไป พวกเขาจึงรู้สึกแย่กับสิ่งต่างๆรอบตัว เนื่องจากชีวิตประจำวันของพวกเขาได้เปลี่ยนแปลงกระทันหัน และด้วยการที่มีโรคระบาดทั่วโลก จึงทำให้ขั้นตอนในการบริการหลายๆอย่างนั้นต้องเพิ่มขึ้นเพื่อความปลอดภัยของทุกคน เหตุนี้จึงทำให้ลูกค้าบางส่วนได้มีการไม่พอใจในบริการและทำให้หงุดหงิดและก้าวร้าวตามมานั้นเอง อย่างเช่น การไปซื้อกาแฟร้านเดิมในชีวิตประจำวันได้มีขั้นตอนเพิ่มขึ้นหลายๆอย่างเช่น การต่อคิวที่ยาวนานขึ้น ไม่สามารถนั่งทานที่ร้านได้หรือจำกัดจำนวนลูกค้าที่เข้าไปในร้าน ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ชีวิตประจำเปลี่ยนไปและจนเกิดความเครียดตามมา
https://www.bbc.com/worklife/article/20220728-why-people-lash-out-at-service-workers